เหตุเกิดที่ร้านทำผม
.
.
.
ผมนั่งทอดหุ่ยอยู่บนโซฟาสีแดงกำมะหยี่ตัวยาวติดริมกระจกใสที่เผยให้เห็นวิวทิวทัศน์ด้านนอก รถราพากันแล่นให้ขวักไขว่ เสียงแตรเสียงเครื่องยนต์ดังเข้ามาให้ได้ยินเบาๆ ความวุ่นวายด้านนอกทำให้ผมนึกขยาดอยากจะออกไปที่ไหนสักแห่งไกลๆ ไปให้พ้นความวุ่นวายในเมืองกรุง
ผมละสายตาจากภาพนั้นเข้ามามองภายในร้านที่ผมอยู่ ความเย็นจากเครื่องปรับอากาศทำให้อารมณ์บูดๆ จากความเบื่อหน่ายของผมทุเลาลงได้บ้าง กลิ่นแชมพูอ่อนๆ หอมโชยผสมกลิ่นน้ำยาเคมีเปลี่ยนสีผมที่ฉุนจมูกคอยไล่ความง่วงงุนของผมอยู่ตลอดเวลา
“น่าเบื่อชะมัด” ผมพึมพำกับตัวเบาๆ ก่อนจะไล่สายตามองบรรยากาศภายในร้านที่ไม่ได้น่าอภิรมย์อะไรนักพอๆ กับความวุ่นวายด้านนอก เสียงไดร์เป่าผมที่น่ารำคาญกับเสียงพูดคุยของพนักงานที่ดังเซ็งแซ่นั่นทำให้ผมต้องเบือนหน้ามองไปทางอื่นอีกครั้ง
สงสัยกันใช่ไหมล่ะครับ ทำไมผมถึงไม่ไปให้พ้นๆ ที่นี่ซะ
ก็เพราะเจ้าตัวปัญหาที่ทำให้ผมต้องมาติดแหง็กในร้านทำผมบ้าๆ นี่เป็นชั่วโมงนั่งอยู่นั่นไงล่ะ
ผู้ชายรูปร่างสมส่วนออกจะอวบนิดๆ นั่งหน้าระรื่นอยู่บนเก้าอี้หนังสีดำหน้ากระจกใสบานใหญ่ สีผมที่ถูกเปลี่ยนจนนับครั้งไม่ถ้วนตอนนี้ถูกย้อมเป็นสีส้มเพลิงพร้อมกับผมที่เคยยาวละต้นคอก็ถูกตัดออกให้เข้าทรงดูโฉบเฉี่ยว
เสียงหัวเราะใสๆ นั่นก็ไม่ได้ทำให้ผมรู้สึกอารมณ์ดีขึ้นมาได้สักนิด
“ชานซองงงงง”
ผมเลิกคิ้วมองเจ้าของเสียงที่วิ่งร่าเข้ามาด้วยท่าทางกระดี้กระด๊าก็อดจะขำให้กับปฏิกิริยาเด็กๆ นั่นไม่ได้
“สีนี้เป็นไง สวยปะๆ” คนตรงหน้าผมพูดด้วยน้ำเสียงเริงร่าพร้อมกับหมุนตัวอวดสีผมใหม่ให้ผมดูยกใหญ่
“อืม สวยดี” ผมตอบออกไปตามตรงไม่ได้ยอหรือตอบออกไปส่งๆ แต่แค่ท่าทางเบื่อหน่ายของผมคงทำให้เขาไม่พอใจในสิ่งที่ผมตอบออกไปเท่าไหร่
“เอาดีๆ ดิ!” คนตรงหน้าผมเริ่มมีน้ำโหแล้ว ใบหน้าเรียวที่มักจะมีรอยยิ้มหยีนั่นก็เปลี่ยนเป็นบึ้งตึงจนผมรู้สึกร้อนๆ หนาวๆ
“ก็สวยไง” ผมยังคงแสดงรีแอคชั่นออกไปเหมือนเดิม และมันคงทำให้เขาอารมณ์ปรี๊ดขึ้นมากกว่าเก่า
“เออ! ไม่ถามก็ได้!” เขากระแทกเสียงตอบผมก่อนจะเดินตึงตังเข้าไปหาพนักงานสักคนที่อยู่แถวนั้น คุยอะไรกันไม่รู้ผมไม่ได้สนใจ ตอนนี้ผมอยากจะออกไปที่นี่เต็มแก่แล้ว
“เชิญคุณชานซองค่ะ” จู่ๆ พนักงานสาวตัวเล็กหน้าตาละอ่อนคนหนึ่งก็เดินยิ้มเข้ามาหาผมพลางผายมือเชิญผมไปที่ขึ้นเขียง เอ๊ย เก้าอี้ทำผมตัวที่ว่าง
เออว่าแต่เชิญผมทำไม?
“ห้ะ?” ผมเลิกคิ้วขยับตัวลุกขึ้นนั่งดีๆ มองคนตรงหน้าอย่างงงๆ
“เชิญเลยค่ะ”
“เอ่อ…ผมไม่..”
“คุณจุนโฮกำลังเลือกสีให้อยู่ทางด้านโน้น เดี๋ยวคุณชานซองไปนั่งก่อนนะคะ”
“ห้ะ???”
เควสชั่นมาร์กตัวเท่าบ้านหล่นทับหัวผมเต็มๆ และยิ่งได้ยินชื่อเจ้าตัวแสบนั่นด้วยแล้วผมก็ยิ่งเหมือนลูกเบสบอลที่ถูกหวดออกนอกสนาม
อะไรเนี่ย!!
“เชิญเลยค่ะ” คนตรงหน้าผมพูดย้ำอีกครั้ง เหมือนเป็นตัวเร่งให้ผมต้องลุกเดินตามเขาไปนั่งลงบนเก้าอี้ทำผมอย่างปลงๆ
เฮ้อออ อีกแล้วนะอีจุนโฮ!!!
————
ฟิคไร้สาระสั้นๆ ที่นั่งแต่งแก้เซ็งตอนรอยายที่ร้านทำผม 5555555 ลังเลอยู่ว่าจะลงดีไหม เพราะมันทั้งสั้นและไม่มีสาระอะไรเลย
ลงแหละดีแล้ว สนุก น่ารักดี อ่านแก่เครียดได้ดีเลย
นี่นับเป็นโมเม้นได้มั้ยนะ ที่แล้วมานี่ศีรษะฮวางชานซองขึ้นอยู่กับความเอาแต่ใจของอีจุนโฮสินะ
ถ้าว่างจะแวบไปอ่านเพื่อนสนิททันทีเลย รีบลงไวๆ นะ ทวงล่วงหน้าไว้ก่อน
แล้วก็อย่าลืมแมวหลงด้วย พี่อยากหลงแมวเต็มทีแล้ว
อิจุนโฮนี่เอาแต่ใจจริงๆเลยยย
ฮวาง ชานซองผู้น่าสงสาร 55555
ฟิคน่ารักมากๆค่าาา
ขอบคุณค่ะพี่เอยยย จุบๆๆๆ
ให้มันได้อย่างนี้สินะ จุนโฮ >___<
อีจุนโฮจอมเอาแต่ใจ งอลนิดหน่อยก็เหวี่ยงสะแล้ว พ่อคนตูดงอล แต่น่ารักที่สุด
อหหหห อีจุนโฮคนเอาเเต่ใจ ไม่พอใจรีแอคชั่นชานก็จับเปลี่ยนสีผมพร้อมกันเลย 55555555 นึกหน้าชานตอนงงออกเลยอ่ะ…เพราะหน้าชานอึนอยู่แล้ว กร๊ากกกก
เหวี่ยงวีนได้ตลอดอ่ะคนนี้
สั้นๆ ก็สนุกนะ น่ารักออก
5555555 อันนี้สั้นมาก แต่น่ารักดีค่ะ เหมาะกันจิงๆ อีกคนเอาแต่ใจ อีกคนก็ยอมได้ตลอด ทั้งๆ ที่เบื่อแสนเบื่อ แต่อีจุนโฮแก้เผ็ดได้ชงัดนัก อยากเบื่อดีนัก พากันเปลี่ยนสีผมให้เข้ากันทั้งคู่ ก็มีแฟนเอาแต่ใจอ่ะน๊ะ