[SF] CNN : Holiday : Ordinary Day

SF : Holiday [Set]

Chapter : Ordinary Day

Pairing : Chansung x Junho

Writer : AatbWoo @ThaihottestA

Rate : G/PG-13

 

 

 

 

“ชาน” เสียงหวานเอ่ยเรียกชิดริมใบหูหนาเพื่อปลุกเอาคนข้างๆ ให้ตื่นจากห้วงนิทรา

 

“….”

 

ยังคงเงียบกริบ…

 

ลมหายใจที่ยังเข้าออกสม่ำเสมอของชานซองทำให้จุนโฮเริ่มรู้สึกหงุดหงิด…

 

วันหยุดสุดสัปดาห์ทั้งทีจะมานอนแบบนี้ไม่ได้นะ!!

 

“ชานซอง!” จุนโฮตะโกนใส่หูคนตัวโตที่นอนอยู่ข้างๆ เสียงดังจนร่างหนาสะดุ้งเฮือก เรียวคิ้วขมวดมุ่นเข้าหากันก่อนจะหันมามองคนตัวเล็กข้างกาย

 

“หือออ อะไรกันจุนโฮ ตกใจหมด ตะโกนใส่หูฉันทำไมเนี่ย” เสียงทุ้มพูดขึ้นอย่างงัวเงีย ดวงตาคมปรือมองใบหน้าหวานที่ดูจะหงุดหงิดไม่ใช่น้อย กลิ่นหอมฟุ้งของคนข้างๆ ทำให้รู้ว่าอีจุนโฮอาบน้ำแต่งตัวเสร็จแล้วเรียบร้อย

 

“ตื่นได้แล้ว ออกไปกินข้าวข้างนอกกัน วันนี้วันหยุดทั้งทีจะมานอนตื่นสายแบบนี้ไม่ได้นะชานซอง!” ไม่พูดเปล่า จุนโฮก็พยายามจับยกท่อนแขนแกร่งของชานซองออกแรงดึงให้คนตัวโตที่ทำท่าจะปิด ตานอนต่อลุกขึ้น ร่างสูงครางอือออในลำคอแต่ก็ยังไม่ยอมลุกขึ้นตามแรงดึงอันน้อยนิดของคนรัก เปลือกตาหนาปิดลงเหมือนอยากจะหลับต่ออีกสักนิด แต่มีหรืออีจุนโฮจะยอม

 

“ลุกไปอาบน้ำเดี๋ยวนี้นะ!” เสียงหวานพูดขึ้นเสียงอีกครั้งจนชานซองต้องขมวดคิ้วกับเสียงที่ดังรบกวนจน เขาไม่สามารถที่จะข่มตาให้หลับต่อได้ ใบหน้าคมหันมามองหน้าคนรักด้วยแววตางัวเงียแต่ก็ยังไม่ยอมลุก แถมยังพยายามซุกหน้าเข้ากับหมอนใบหนาและกอบโกยเอาความอุ่นจากผ้าห่มผืนหอม ที่ถูกจุนโฮดึงออกให้พ้นตัว

 

“ขอนอนต่ออีกนิดไม่ได้หรอจุนโฮ” เสียงทุ้มพูดอู้อี้ก่อนจะขยับตัวเข้าหาร่างเล็กที่นั่งหน้าบึ้งอยู่ข้างๆ หัวทุยเขยิบขึ้นนอนซบลงบนตักนิ่มอย่างอ้อนๆ พร้อมกับเปลือกตาที่ปรือเปิดเมื่อครู่ก็ค่อยๆ ปิดลง

 

“ฮึ่ย ชานซอง ถ้าชานไม่ลุกไปอาบน้ำตอนนี้ โฮจะออกไปกินข้าวข้างนอกคนเดียวจริงๆด้วย!” จุนโฮมองใบหน้าครึ่งซีกของชานซองที่ถือวิสาสะเขยิบหัวขึ้นมานอนบนตักเขาหน้า ตาเฉย มือเรียวยกขึ้นดันหัวชานซองออกก่อนจะขยับตัวเตรียมจะลุกลงจากเตียงทำตามสิ่ง ที่ประกาศก้าวไว้เมื่อครู่

 

อยากจะนอนต่อก็เชิญ!

 

“งื่ออออ จุนโฮฮฮ เดี๋ยวก่อนสิ” ชานซองที่โดนคนตัวเล็กผลักหัวลงจากตักนิ่มก็ครางหงุงหงิงในลำคอขยับตัวจับ รั้งข้อมือเล็กไว้ได้ทันก่อนที่คนเอาแต่ใจอย่างอีจุนโฮจะลุกลงจากเตียงแล้ว ปล่อยทิ้งให้เขาอยู่บ้านคนเดียวโดยที่ตัวเองออกไปหลั่นล้าอยู่ข้างนอกอย่าง ที่พูดไว้

 

“อะไร! อยากนอนก็นอนไปสิ หิว! จะออกไปกินข้าว!” จุนโฮกระแทกเสียงใส่ก่อนจะสะบัดข้อมือออกจากการเกาะกุมของคนที่ยังคงนอน เลื้อยอยู่บนเตียง

 

“จุนโฮอ่า ไม่เอาาา ลุกก็ได้ รอชานอาบน้ำแปปนึง” ชานซองยอมแพ้ให้กับความเอาแต่ใจของคนตัวเล็ก ปล่อยข้อมือของจุนโฮให้เป็นอิสระก่อนจะค่อยๆ พยายามเลื้อยตัวเองขึ้นมานั่งหน้ามึนบนเตียงเพื่อปรับสภาพให้หลุดออกจาก อาการมึนๆ ของคนเพิ่งตื่นนอน

 

“เร็วสิ มัวนั่งอึนอะไร โฮหิวนะชานซอง!” จุนโฮตวัดสายตามองใบหน้าคมเหวี่ยงๆ สองแขนเรียวยกขึ้นกอดอกไว้หลวมๆ ชานซองที่เห็นท่าทางไม่ค่อยสบอารมณ์ของจุนโฮ ก็ยอมลุกลงจากเตียงเดินไปหยิบผ้าขนหนูหาวหวอดๆ เข้าห้องน้ำไปอย่างจำใจ มีหวังถ้าขืนยังนั่งหลับในอยู่แบบนั้นจุนโฮได้ชิ่งหนีแล้วทิ้งเขาให้อยู่ เฝ้าบ้านจริงๆ แน่

 

ผ่านไปสิบนาที…

 

ร่างสูงเดินออกมาจากห้องน้ำโดยมีผ้าขนหนูผืนเดียวที่พันรอบเอวไว้ รู้สึกสดชื่นขึ้นมาหน่อย สมองก็เริ่มตื่นตัว กระปรี้กระเป่าจากน้ำเย็นๆ ที่เพิ่งอาบไป ดวงตาคมกวาดมองรอบห้องมองหาคนตัวเล็กที่คาดว่าน่าจะนั่งรออยู่ในห้องแต่กลับ ไม่มี…

 

เฮ้ย อย่าบอกนะว่าจุนโฮขี้เกียจรอแล้วทิ้งเขาให้อยู่บ้านคนเดียวจริงๆ นี่รีบอาบน้ำแล้วนะเนี่ย!

 

คนตัวโตรีบวิ่งทะเล่อทะล่าออกไปดูที่ห้องนั่งเล่น พ่นลมหายใจออกมาอย่างโล่งอกเมื่อเห็นจุนโฮนั่งดูทีวีรอเขาอยู่ ใบหน้าหวานหันมามองเขาก่อนจะขมวดคิ้วมุ่น

 

“ทำไมยังไม่แต่งตัว จะออกไปชุดนี้รึไง”

 

“เปล่าๆ นึกว่าโฮจะหนีออกไปก่อนซะแล้ว รอแปปนึงนะ” รีบปฏิเสธแล้วเดินกลับเข้าไปแต่งตัวในห้องด้วยความเร็วแสง กลัวถ้าแต่งตัวนานกว่านี้อีจุนโฮจอมเอาแต่ใจอาจะจะวีนใส่เขาก่อนจะได้ออกไป กินข้าวข้างนอกกันแหงๆ รายนั้นยิ่งอารมณ์แปรปรวนยิ่งกว่าผู้หญิงตอนเป็นประจำเดือนซะอีก

 

“เสร็จแล้ววววว”

 

ใช้เวลาไม่นานชานซองก็เดินเข้ามาที่ห้องนั่งเล่นในชุดเสื้อผ้าใส่สบาย เหมาะแก่ช่วงหน้าร้อน แอบเดินอ้อมเข้าไปหอมแก้มคนตัวเล็กที่ยังนั่งดูทีวีอยู่ รายนั้นก็ผงะตกใจก่อนฝ่ามือเล็กๆ จะตีป้าบเข้าที่ต้นแขนชานซองอย่างจัง

 

เพียะ

 

“โอ้ย จุนโฮอ่า ตีชานทำไมเนี่ย” ชานซองร้องโอดโอยเบาๆ ก่อนจะยกมือขึ้นลูบบริเวณที่จุนโฮตีปอยๆ หน้าหงอลงเล็กน้อยพอให้น่าสงสารเผื่อคนตรงหน้าจะยอมคลายปมคิ้วที่ขมวดอยู่ บ้าง

 

“ทำบ้าอะไรตกใจหมด”

 

“มอนิ่งคิสไง หอมชานมั่งดิ” พูดพร้อมบริการพองลมแก้มป่องไว้ข้างหนึ่งแล้วยื่นหน้าเข้าไปใกล้คนตัวเล็ก แต่แทนที่รายนั้นจะมอนิ่งคิสกลับให้ตามคำขอ ก็เจอฝ่ามือเรียวตีเข้าที่แก้มอย่าจังจนต้องครวญครางออกมาอีกรอบ

 

เพียะ

 

“โอ้ยยย จุนโฮ แค่นี้ไม่เห็นจะต้องตีเลย ตีด้วยปากไม่ว่า แต่ทำไมต้องตีด้วยไอ้นี่ด้วยเล่า เดี๋ยวปั๊ดจับกินซะเลยนิ” ชานซองโอดครวญพร้อมกับทำท่าทางประกอบโดยการจับมือของจุนโฮข้างที่เพิ่งยกตี แก้มเขาไปหมาดๆ ทำท่าจะงับมือนั่นแต่ก็ถูกเจ้าของมือชักมือกลับอย่างรวดเร็ว

 

“อะไรเล่า เสร็จแล้วก็รีบไปสิ หิวจะแย่” ร่างบางพูดจบก็ผุดลุกขึ้นยืนอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย เดินไปกดปิดทีวีปิดไฟปิดพัดลมในห้องตรวจเช็คความเรียบร้อยทุกอย่างก่อนจะ เดินนำร่างสูงไปทางประตูห้อง

 

ชานซองที่เห็นจุนโฮรีบลุกไปแบบนั้นก็ยิ้มกริ่มแอบเห็นใบหน้าครึ่งซีกนั่น ซับสีจาง แถมใบหูก็ยังแดงก่ำ สงสัยจะเขิน เก็บอาการไม่เนียนเลยนะอีจุนโฮ

 

“มัวนั่งเอ๋ออะไรเล่า จะกินไหมข้าวน่ะ!!”

 

“คร้าบๆ กินครับกิน รีบไปเดี๋ยวนี้แหละคร้าบบบบบบ”

 

f33

 

ใช้เวลาขับรถมาที่ร้านอาหารร้านโปรดได้ไม่นานนัก ชานซองก็พาจุนโฮมาที่ร้านอาหารอิตาเลี่ยนร้านประจำที่รสอาหารถูกปากเจ้าตัว เดินเข้าไปในร้านที่ตกแต่งในโทนสีอ่อนให้ความรู้สึกสบายเรียบง่ายไม่หรูหรา ฟู่ฟ่าจนเกินไป จุนโฮเดินนำเข้าไปที่โต๊ะตัวในสุด ผู้คนในร้านยังไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่นัก เพราะช่วงเวลานี้เป็นเวลาที่ร้านเพิ่งเปิดได้ไม่นานคนจึงยังไม่ค่อยทยอยมา กันมากนัก

 

จุนโฮรีบสั่งอาหารเมนูประจำก่อนจะหยิบโทรศัพท์คู่ใจขึ้นมากดเล่น เสียงเพลงในร้านคลอเบาๆ พอให้อารมณ์ผ่อนคลาย ริมฝีปากบางขยับฮัมเพลงตามเบาๆ พลางสายตาก็จับจ้องไปที่หน้าจอโทรศัพท์มือถือในมือ

 

“ถ่ายรูปกันไหม” เงยหน้าขึ้นมาถามคนตรงหน้าด้วยรอยยิ้มหยี ชานซองที่เห็นจุนโฮดูอารมณ์ดีเป็นพิเศษก็ไม่อยากขัด พยักหน้าตอบก่อนจะขยับตัวเข้าไปใกล้ๆ ฉีกยิ้มกว้างให้กล้องที่จุนโฮยกขึ้นถ่าย

 

แชะ~

 

เสียงชัตเตอร์ดังเบาๆ ก่อนที่รูปหน้าจอที่กดถ่ายจะหายเข้าไปในกล่องอัลบั้ม ชานซองเขยิบตัวกลับมานั่งที่เดิม ก่อนจะมองสีหน้าของคนรักที่หัวเราะคิกคักอยู่กับโทรศัพท์ตัวเอง

 

เขาชอบเวลาที่จุนโฮอารมณ์ดีสุดๆ รอยยิ้มสดใสมักจะแต่งแต้มอยู่บนใบหน้านั่นเสมอ อย่าได้ขัดเวลาที่เจ้าตัวกำลังอารมณ์ดีเชียว ไม่งั้นรอยยิ้มหวานๆ อาจจะกลายมาเป็นสีหน้าบึ้งตึงและพร้อมที่จะเหวี่ยงใส่ใครก็ได้ทุกเมื่อที่ กล้าเข้าไปขัดอารมณ์เจ้าตัว

 

“นี่~ น่ารักไหมชาน คิก” คนตัวเล็กยื่นหันหน้าจอโทรศัพท์ให้ชานซองดูพร้อมกับหัวเราะคิกตักอย่างชอบใจ

 

“หืมมม อะไรเนี่ย แมวอีจุนโฮกับแมวฮวางชานซองรึไงกัน” ชานซองหัวเราะเบาๆ เมื่อมองรูปที่ถ่ายเมื่อครู่ซึ่งถูกจุนโฮแต่งเติมใส่หูแมวเป็นลายดินสอสีขาว กับขีดสามเส้นที่แก้มสองข้าง แถมยังมีรูปหัวใจสีชมพูอยู่บนช่องว่างระหว่างหัวของเขากับจุนโฮอีกต่างหาก

 

“น่ารักอ่ะดิ อยากได้ป้ะ เดี๋ยวจะส่งไปให้ในแชท” พูดจบก็ไม่ต้องรอคำตอบจากร่างสูง จุนโฮก้มหน้ากดโทรศัพท์ในมือยิกๆ ก่อนจะตามมาด้วยเสียงแจ้งเตือนแชทดังขึ้นจากโทรศัพท์ชานซอง ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าเป็นจุนโฮที่ต้องส่งรูปนั้นมาให้ทางแชทเขาแน่ๆ

 

“ตั้งเป็นรูปล็อกหน้าจอด้วย!” สั่งเสียงเฉียบพร้อมกับเชิดหน้ามองเขาด้วยสายตาที่ชานซองไม่อาจกล้าที่จะขัด คำสั่งของอีจุนโฮได้ คนตัวโตจึงต้องจำใจหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเซฟเอารูปที่คนตรงหน้าเพิ่งส่งมาให้ แล้วจัดการตั้งเป็นภาพล็อกหน้าจอตามคำบัญชาของอีจุนโฮทันที

 

“เรียบร้อยแล้วนะครับท่านจักรพรรดิอีจุนโฮ” พูดพร้อมกับหันหน้าจอโทรศัพท์ชูรูปล็อกหน้าจอให้คนตรงหน้าดู จุนโฮยิ้มหัวเราะคิกคักกับตัวเองอย่างชอบใจ พอดีกับที่พนักงานเอาอาหารมาเสิร์ฟที่โต๊ะ บทสนทนาก็เลยจบลงแค่นั้นพร้อมกับที่พวกเขาสองคนเริ่มจัดการกับอาหารตรงหน้า อย่างเอร็ดอร่อยโดยไม่รีบร้อน ดื่มด่ำกับรสชาติอาหารที่ถูกปากพร้อมกับฟังเสียงเพลงที่เปิดคลอเบาๆ ในร้าน วันหยุดสุดสัปดาห์วันนี้ถึงแม้จะดำเนินไปอย่างเรียบง่ายไม่มีอะไรพิเศษ แต่ก็ทำให้คนสองคนมีความสุขจนไม่สามารถหาคำมาบรรยายให้กับความรู้สึกที่ล้น อยู่ในอกนี้ได้ ♥

 

หลังจากทานข้าวเช้าเสร็จ จุนโฮก็ชวนชานซองออกมาเดินเล่นตามริมฟุตบาตดูร้านขายของชำในย่านการค้า แสงแดดตอนสายใกล้เที่ยงให้ความรู้สึกร้อนบ้าง แต่ก็ไม่สามารถทำให้อีจุนโฮหยุดความคิดที่จะเดินดูข้าวของตามแผงลอยริมฟุต บาตได้แต่อย่างใด เดินควงแขนลากชานซองเข้าร้านนู้นออกร้านนี้เป็นว่าเล่น คนตัวโตก็ยอมไปตามแรงดึงของคนรัก ถึงแม้ตอนนี้เขาอยากจะนอนดูหนังอยู่ที่บ้านมากกว่าก็ตาม พูดถึงหนัง…ก็อยากเช่าหนังเรื่องใหม่ไปนอนดูกับจุนโฮที่บ้านจัง

 

“จุนโฮเช่าหนังไปดูกันมั้ย” หันไปถามคนตัวเล็กที่เดินเกาะแขนอยู่ข้างกาย มองใบหน้าครึ่งซีกของคนข้างๆ ที่ยังเดินยิ้มฮัมเพลงอย่างอารมณ์ดี

 

“เอาสิ วันนี้ว่างอยากนอนดูหนังอยู่เหมือนกัน” หันมายิ้มหยีให้คนตัวโตอย่างน่ารัก ชานซองเห็นแบบนั้นก็ยิ้มตาม แล้วพาคนตัวเล็กเดินเข้าร้านเช่าวิดีโฮที่อยู่แถวๆ นั้น

 

ใช้เวลาเลือกหนังที่ต้องการได้ไม่นานนัก ชานซองกับจุนโฮก็เดินออกมาจากร้านพร้อมกับแผ่นหนังสองเรื่องที่ช่วยกันเลือก มา เรื่องแรกเป็นหนังแนวที่ชานซองชอบ ส่วนเรื่องที่สองก็เป็นหนังแนวที่จุนโฮชอบ ตัดสินใจตกลงกันว่าจะดูหนังที่จุนโฮเลือกมาก่อนในช่วงบ่าย แล้วช่วงหัวค่ำค่อยดูหนังที่ชานซองเลือกมา

 

แวะเข้าซุปเปอร์มาร์เก็ตซื้อของสดไปตุนใส่ในตู้เย็นขนมกรุบกรอบทานเล่น ที่ชานซองชอบ แล้วจึงกลับมาที่คอนโดหรูใจกลางเมือง จุนโฮเดินนำชานซองตัวปลิวเข้าไปในห้อง ชี้นิ้วสั่งให้ร่างสูงวางของลงตามที่ต้องการ ของสดของกินให้เอาไปวางไว้ที่โต๊ะในห้องครัว ของจุกจิกที่ซื้อมาตกแต่งบ้านให้วางไว้ที่โต๊ะตัวเตี้ยในห้องนั่งเล่นแล้ว เจ้าตัวก็เดินตัวปลิวเข้าไปเปลี่ยนชุดในห้องนอนทันที

 

“ชานนน จะดูหนังเลยรึเปล่า” จุนโฮโผล่เข้ามาเกาะขอบประตูห้องครัวที่ชานซองกำลังเดินเอาของมาวาง คนตัวเล็กเปลี่ยนชุดสวมใส่เสื้อผ้าสบายๆ แบบอยู่บ้าน เสื้อยืดสีขาวตัวโคร่งยาวจนปิดกางเกงขาสั้นตัวจิ๋ว อีจุนโฮในชุดแบบนี้ช่างยั่วยวนชานซองซะจริงๆ

 

“ดูเลยก็ได้ เดี๋ยวชานหยิบขนมตามเข้าไป เอาของใส่ตู้เย็นเลยป้ะ”

 

“โอเคๆ เอาใส่เลย เดี๋ยวโฮเปิดหนังรอนะ”

 

พูดจบก็เดินกลับเข้าห้อง จัดการใส่แผ่นหนังเข้าเครื่องเล่นวิดีโอ กดรีโมตเปิดแอร์แล้วปิดม่านในห้องไม่ให้แสงแยงเข้ามาสะท้อนจอทีวีพลาสม่าตัว ใหญ่ นอนกลิ้งเล่นบนเตียงได้สักพัก ชานซองก็เดินเข้ามาพร้อมถุงขนมมากมายที่เพิ่งไปซื้อกันมา วางถุงขนมต่างๆ ลงบนที่นอน เดินไปเปลี่ยนเสื้อผ้าใส่ชุดสบายๆ อยู่บ้านแล้วก็กระโดดขึ้นมานอนเล่นบนเตียงกับจุนโฮที่นอนคว่ำเยียดตัวยาว เท้าคางลงกับหมอนหันหน้าไปที่จอทีวีที่ตั้งอยู่ปลายเตียง ไตเติ้ลหนังเล่นจบพอดีและหนังกำลังจะเริ่ม เรื่องนี้เป็นหนังตะวันตกแนวเบาๆ ออกจะค่อนไปทางโรแมนติกคอมเมดี้ ซึ่งจุนโฮมักจะชอบหนังแนวโรแมนติกผ่อนคลายแบบนี้เสมอ

 

“กินหนม” ชานซองเขยิบตัวหยิบหมอนมานอนลองแขนข้างๆ จุนโฮพลางแกะถุงขนมกรุบกรอบยื่นไปให้คนข้างๆ แต่ร่างบางกลับส่ายหัวปฏิเสธสายตาเรียวยังจดจ่อไปที่จอทีวีตรงหน้าพร้อมกับ ปากที่ขยับตอบ

 

“นอนกินเดี๋ยวอ้วน”

 

“ตามใจ”

 

เวลาล่วงเลยไปเรื่อยๆ พร้อมบนสนทนาที่จบลงเมื่อหนังเริ่มเล่น จากที่นอนเหยียดนอนคว่ำตัวแล้วเอาคางเกยหมอน ก็เริ่มเลื้อยกันไปตามเอาความสบาย ชานซองยังคงนอนคว่ำทับหมอนใบยักษ์ที่เอาเกยแขนไว้อยู่หยิบขนมใส่ปากท่าเดิม แต่จุนโฮกลับเริ่มเลื้อยขยับมานอนพิงคนตัวโตเอาหัวอิงทับแผ่นหลังหนานอน ตะแคงมองจอทีวีอย่างสบายๆ เวลาผ่านไปเรื่อยๆ โดยไม่มีใครพูดอะไรจนหนังจบ เข็มนาฬิกาชี้บ่งบอกเวลาบ่ายสามโมงเย็น แต่ชานซองก็ยังคงนอนกอดหมอนไม่ยอมลุกไปไหน จุนโฮก็ขยับตัวลุกลงจากเตียงไปปิดหนังที่ฉายเครดิตตอนจบ บิดขี้เกียจสองสามทีคลายความปวดเมื่อยก่อนะเดินกลับมาทิ้งตัวลงนอนบนเตียง กว้าง อยากจะนอนตากแอร์เล่นแบบนี้อีกสักหน่อย

 

“โฮของีบแปปนะ เดี๋ยวจะลุกไปทำอาหารเย็นให้” พูดเสียงอู้อี้พลางฝังใบหน้าลงกับหมอน หันตะแคงข้างไปมองคนตัวโตที่นอนอยู่ท่าเดียวกันข้างๆ ใบหน้าคมครึ่งเสี้ยวปรือตามองหน้าคนตรงหน้าพร้อมกับคลี่ยิ้มบางตอบเสียง อู้อี้ในลำคอ บ่งบอกว่าตัวเขาเองก็กำลังจะเข้าสู้ห้วงนิทราในอีกไม่ช้าเช่นกัน

 

ร่างสองร่างที่นอนเยียดยาวอยู่บนเตียงกว้างเข้าสู่ห้วงนิทราไปพร้อมๆ กัน อากาศเย็นๆ จากเครื่องปรับอากาศในห้องคอยห่อหุ้มให้ร่างสองร่างรู้สึกเย็นสบายกับ บรรยากาศในห้องที่ไม่ร้อนและไม่หนาวจนเกินไป อาจเป็นเพราะช่วงนี้เป็นช่วงหน้าร้อนด้วยแล้ว ความเย็นของอุณหภูมิแอร์ที่ปรับเป็นค่าปกติก็ทำให้บรรยากาศในห้องอยู่ใน อุณหภูมิที่ลงตัวพอเหมาะ

 

 

เวลาผ่านไปสองชั่วโมง ชานซองก็เริ่มขยับรู้สึกตัวแล้วบ้างเพราะเริ่มอิ่มจากการนอนพัก ปรือตาขึ้นมองเห็นใบหน้าหวานครึ่งซีกของจุนโฮที่นอนอยู่ข้างๆ ก็อดที่จะยิ้มออกมาไม่ได้ เขากับจุนโฮไม่ค่อยมีเวลาว่างมานอนเอกเขนกแบบนี้กันสักเท่าไหร่นัก วันทำงานปกติก็ต้องแยกย้ายกันไปทำงานที่ออฟฟิศของตัวเอง กว่าจะกลับกันมาก็มืดค่ำ ตัวเขาเองก็เหนื่อยจากที่ทำงานมา ร่วมโต๊ะกินข้าวฝีมือทำอาหารของจุนโฮเสร็จก็เข้าห้องมานอนนอนดูทีวีแล้วก็ เผลอหลับไปพอๆ กับจุนโฮที่เหนื่อยล้าจากการทำงานพออาบน้ำเสร็จหัวถึงหมอนก็หลับปุ๋ย

 

กิจวัตรประจำของพวกเขาดำเนินไปแบบนี้เรื่อยๆ เสาร์อาทิตย์บางวันก็ต้องหอบงานกลับมาทำต่อที่บ้าน ไม่ค่อยมีเวลามาทำเรื่องไร้สาระ นอนดูหนัง ออกไปช้อปปิ้ง หรือนอนหายใจทิ้งไปทั้งวันแบบนี้

 

คงมีเพียงวันหยุดที่แสนธรรมดาอย่างวันนี้ที่เขากับจุนโฮจะมีเวลาว่างทำ กิจกรรมร่วมกัน ไปกินข้าวนอกบ้าน เดินดูของ แล้วก็เช่าหนังมานอนดูกันโดยไม่ต้องคำนึงถึงภาระงานที่หนักอึ้งที่พวกเขาจะ ต้องกลับมานั่งทำต่อ ถึงแม้ว่านี่จะเป็นกิจกรรมธรรมดาๆ ไม่ได้พิเศษอะไร แต่เขาก็มีความสุขที่ได้อยู่ด้วยกันแบบนี้ ถึงต่อให้นอนมองหน้ากันเฉยๆ แบบนี้ไปตลอดทั้งวันเขาก็ไม่เบื่อเลย…

 

แค่มองใบหน้าที่มักจะประดับด้วยรอยยิ้มของอีจุนโฮ ฮวางชานซองคนนี้ก็มีความสุขมากพอแล้วล่ะ J

 

ชานซองนอนมองใบหน้าเนียนของจุนโฮนิ่ง แก้มใสของคนตรงหน้าเชิญชวนให้เขาอยากเข้าไปฝังจมูกโด่งๆ ของตัวเองลงบนแก้มนุ่มนิ่มนั่นเพื่อสูดเอาความหอมประจำตัวของคนรักให้ชื่นใจ ชานซองเขยิบตัวเข้าไปใกล้จุนโฮจนสัมผัสได้ถึงเสียงลมหายใจเข้าออกสม่ำเสมอ ของคนตรงหน้า เปลือกตาบางยังคงปิดสนิท ริมฝีปากบางแดงเรื่อเหมือนลูกเชอร์รี่ ทำให้เขาเริ่มรู้สึกลังเลว่าจะหอมแก้มจุนโฮสักฟอดหรือจะลิ้มรสความหวานจาก ลูกเชอร์รี่สีแดงสดที่ริมฝีปากเล็กนั่นดี

 

งั้นเอาสองอย่างเลยแล้วกัน!

 

ชานซองเขยิบตัวเข้าไปใกล้จุนโฮมากขึ้นฝ่ามืออุ่นลูบไล้นิ้วมือลงบนแก้ม เนียนของคนตรงหน้าเบาๆ พยายามไม่ทำให้คนตัวเล็กตื่นซะก่อน ขยับใบหน้าเข้าไปใกล้จนลมหายใจร้อนๆ เป่ารดบนใบหน้าของจุนโฮและรับรู้ได้ถึงความร้อนแผ่วๆ จากลมหายใจของคนตรงหน้า จุนโฮขยับตัวยุกยิกพยายามมุดหน้าหนีลมหายใจร้อนๆ นั่นโดยไม่รู้สึกตัว ชานซองวาดแขนโอบกอดคนตัวเล็กไว้หลวมๆ ก่อนจะก้มลงไปฝังจมูกลงบนแก้มใส สูดดมเอาความหอมจากกลิ่นกายจางๆ ประจำตัวของคนในอ้อมกอดช้าๆ ค่อยๆ เลื่อนใบหน้าลงมาที่ริมฝีปากอิ่ม ยกมือขึ้นจับประคองใบหน้าหวานให้เงยขึ้น เอียงหน้าเข้าหาให้ได้องศาแล้วประกบจูบลงบนกลีบปากแดงช้าๆ นุ่มนวลและลึกซึ้ง ขยับบดบึงที่กลีบปากบางเนิบๆแผ่วเบา จุนโฮมีท่าทีเหมือนจะรู้สึกตัวขึ้นมาได้บ้างว่าตัวเองกำลังถูกรุกล้ำ เปลือกตาบางเปิดปรือมองชานซองที่ยังไม่ถอนริมฝีปากออกจากกลีบปากนุ่มของตัว เอง

 

“อื้ออ ชาน” มือเล็กยกขึ้นดันหน้าอกของคนตรงหน้าเบาๆ เป็นเชิงให้หยุดก่อน ชานซองก็ยอมถอนริมฝีปากออกมามองสบตากับจุนโฮ ระยะห่างใบหน้าของคนทั้งสองห่างกันเพียงแค่ห้วงลมหายใจกั้น ดวงตาเรียวเล็กหยีเป็นเส้นขีดเมื่อริมฝีปากบางคลี่ยิ้มหวานอย่างน่ารัก ชานซองโน้มหน้าเข้าไปประกบจูบปากนิ่มๆ นั่นอีกครั้งอย่างหมั่นเขี้ยว กดจูบย้ำๆ ลงบนริมฝีปากนุ่มอย่างไม่รู้จักเบื่อ แกล้งหยอกงับปากจุนโฮเบาๆ จนรายนั้นต้องยกมือขึ้นตีป้าบเข้าที่ต้นแขนแกร่งอยากปรามๆ

 

“พอแล้วชานซอง เดี๋ยวปากโฮช้ำหมดนะ” จุนโฮหัวเราะคิกคักเมื่อชานซองผละใบหน้าออกเปลี่ยนทิศทางไปซุกไซร้ซอกคอเขา แทน กระชับอ้อมกอดดึงคนตัวเล็กเข้ามาใกล้ กดจูบที่หลังใบหูแดงจนจุนโฮต้องมุดหน้าลงซุกกับอกอุ่น พยายามหนีลมหายใจร้อนๆ ที่เป่ารดใบหูตัวเอง รู้ว่าจุดอ่อนเขาอยู่ไหนก็ชอบแกล้งกันตลอดเลย!

 

“คิกๆ ไม่เอาน่าชานซอง!” พยายามมุดหน้าหนีคนตัวโตที่ยังไม่ยอมคลายอ้อมกอด รู้สึกเสียววูบบริเวณใบหูที่ถูกชานซองไล่งับ ฮึ่ย! ชอบแกล้งเขาอยู่เรื่อยเลย!

 

“หิวแล้วววว” คนตัวโตพูดพลางแกล้งหยอกงับตามใบหู ลาดไหล่ และหัวไหล่มนของคนในอ้อมกอด จุนโฮเองก็ดิ้นขลุกขลักหัวเราะคิกคักด้วยความจั๊กจี้

 

“หิวแล้วก็ปล่อยสิ! เดี๋ยวโฮไปทำอาหารให้ ทำแบบนี้จะอิ่มไหมเล่า!”

 

“อยากกินจุนโฮมากกว่า” ตอบเสียงใสพร้อมรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ ดันต้นแขนของคนตรงหน้าออกเพื่อให้สายตาสบประสานกัน ใบหน้าหวานแดงเรื่อ เสสายตาหลบคนตรงหน้าเลิ่กลั่ก

 

“พูดอะไรเนี่ยชานซอง ปล่อยโฮก่อนเดี๋ยวจะไปทำอาหารให้ -///-”

 

“ไม่เอาเดี๋ยวค่อยลุกไปทำก็ได้ยังไม่หิวเลย”

 

แล้วเมื่อกี้บอกหิวเจ้าบ้า!!

 

ชานซองพูดจบก็รวบตัวจุนโฮเข้ามากอดอีกครั้ง เอาคางเกยบนหัวทุยหอมๆ ของคนในอ้อมกอด ปิดเปลือกตาพริ้มสูดเอากลิ่นความหอมและสัมผัสกอดเนื้อตัวนุ่มนิ่มของคนตัว เล็กไว้

 

อยากอยู่อย่างนี้ไปนานๆ

 

“จะอ้อนเอาอะไรอีกล่ะ หืม” เมื่อรู้สึกว่าคนตรงหน้าเริ่มทำตัวเอาแต่ใจงอแงเหมือนเด็กๆ จุนโฮก็ขยับตัวเงยหน้าขึ้นไปถามชานซองที่ยังคงหลับตาอยู่ ริมฝีปากหยักคลี่ยิ้มน้อยๆ ก่อนจะเปิดเปลือกตาขึ้นมามองคนในอ้อมกอด

 

“เปล่า…แค่รู้สึกว่าได้นอนกอดโฮแบบนี้แล้วมีความสุขจัง”

 

จุนโฮฉีกยิ้มกว้างรู้สึกหัวใจพองตัว ความเหนื่อยล้าที่สั่งสมมานานหายวับไปกับตาแค่เพียงได้รับสายตาอบอุ่นที่คน ตรงหน้าทอดมองมากับคำพูดหวานๆ จากริมฝีปากหยักที่แสนรักมันก็ทำให้เขารู้สึกเหมือนตัวเองกำลังลอยอยู่ใน อากาศ นานแค่ไหนแล้วนะที่เขากับชานซองไม่ได้มีเวลาอยู่ด้วยกันแบบนี้โดยไม่ต้อง คำนึงหรือกังวลถึงเรื่องอื่น

 

ไม่ต้องเร่งรีบ ไม่ต้องนั่งเครียดอยู่แต่กับงาน มีเวลาออกไปทำกิจกรรมร่วมกัน ออกไปกินข้าวนอกบ้านที่ร้านโปรด เดินเล่นทอดน่องไปตามถนนฟุตบาต ดูของนู่นนี่ไปเรื่อยเปื่อย นอนดูหนังด้วยกัน หรือจะนอนกอดกันอยู่แบบนี้…

 

มีความสุขจัง ♥

 

“ถ้าหิวอย่ามาบ่นกันน้า~”

 

“ก็ถ้าหิว…ก็กินโฮก่อนเลยไง :)”

 

 

[END]

 

 

___________________________________

เกิดจากอารมณ์ชั่ววูบ…

ไร้แก่นสาร พล็อตธรรมดาที่แต่งไปเรื่อย

จริงๆ ก็อยากให้มันออกมาในรูปแบบวันช็อต

แต่พอแต่งไปแต่งมาก็อยากให้มันกลายเป็นเซตวันหยุดของชานโฮซะงั้น

สรุปคร่าวๆ คือการดำเนินชีวิตของชานนูนอในวันหยุดธรรมดาๆก็แล้วกันเนอะ

จริงๆ แล้วมันก็มีต่ออีกนะ แต่คือถ้าต่อไปอีกมันคงจะไม่จบง่ายๆ เอยก็เลยตัดจบไปแบบนี้ซะเลย ><

 

4 thoughts on “[SF] CNN : Holiday : Ordinary Day

  1. เจ้…มดมันขึ้นจอออมอ่ะ มันหวานแบบหว๊านหวานนนนนน กรี้ดแปปได้ปะ อ่านไปแล้วก็เขิน จิกหมอนจนยับยู่ยี่ กรี้ดดดด เขินโว้ยยยยย>///////< ละลายแปป ถ้ามีNCนะ -,.- #อย่าเขวี้ยงรองเท้ามา อยากได้ตอนต่ออ่ะ เอาอีกได้ปะ นะ นะ*0*

  2. เเค่นี้ก็น่ารักมากเเล้ว ไม่ต้องอะไรมาก เรื่อยๆ เรื่อยๆ

ชื่อไม่ต้องใส่ก็เม้นท์ได้จ้า