OS : Unequal
Pairing : Chansung x Junho
Writer : AatbWoo @ThaihottestA
Rate : G
แนะนำให้เปิดเพลงไปอ่านไปนะคะ ^^
Music : คำว่ารักของเราต่างกัน ดิว อรุณพงษ์ (Feat.นท พยางกูร)
เธอแปลคำว่ารักไม่ตรงกับฉัน แค่เรามองรักด้วยสายตาต่างกัน
ฉันรู้เพียงแค่เธอคือโลกของฉัน ขาดเธอเหมือนขาดใจ แต่ไม่รู้ใจคนอย่างเธอ…
ร่างสูงโปร่งเดินทอดน่องไปตามถนนสายเล็กในสวนสาธารณะแห่งหนึ่ง ท้องฟ้าสีส้มบ่งบอกเวลายามเย็นที่พระอาทิตย์ดวงกลมกำลังใกล้จะลับขอบฟ้าไป อีกไม่นานนัก ผู้คนหลากหลายช่วงอายุต่างก็เริ่มทยอยพากันเดินไปที่ทางออกของสวนหรือนั่นก็ คือทางเข้าที่ชานซองเพิ่งเดินผ่านพ้นประตูเข้ามากเข้ามาด้านใน
กำลังเดินไปหาใครอีกคนที่กำลังรอเขาอยู่…
รู้สึกเหมือนเวลาช่างเดินช้าเหลือเกิน…เหมือนเข็มนาฬิกากำลังใกล้จะหยุดเดิน…เสียงพูดคุยที่ดังอยู่รอบๆ ตัวเริ่มเงียบลง
ชานซองค่อยๆ ก้าวเดินไปข้างหน้าช้าๆ ไม่เร่งรีบ ไม่รีบร้อน สูดเอาบรรยากาศที่ลายล้อมรอบตัวไปด้วยกลิ่นไอธรรมชาติเข้าเต็มปอด เดินผ่านสนามเด็กเล่นที่ไร้ซึ่งเด็กเล็กเด็กน้อย เดินผ่านสนามหญ้ากว้างๆ ที่ไร้ซึ่งผู้คนที่มักจะมาเล่นกีฬากันประจำ หรือเป็นเพราะดวงอาทิตย์ดวงกลมที่กำลังลับขอบฟ้าบ่งบอกเวลาเย็นมากแล้วที่ทำ ให้ทุกอย่างดูเงียบสงบผิดปกติ หรืออาจเป็นเพราะทุกอย่างกำลังเป็นใจให้รอบตัวเขามันพลันเงียบลงเหมือนกับ นาฬิกาถ่านอ่อนที่มันใกล้จะหยุดเดิน…
ดวงตาคมทอดมองไปด้านหน้า สายลมเอื่อยพัดปะทะเข้าใบหน้า หอบเอาความเย็นจากสายน้ำที่อยู่ไม่ไกลกระทบลงตามเนื้อตัวให้ความรู้สึกเย็น สบาย แต่ตอนนี้ทำไมมันกลับหนาวเย็นยะเยือกไปถึงขั้วหัวใจ…
ร่างสูงจดจ้องไปยังภาพเบื้องหน้า ที่ตรงนั้น…แผ่นหลังเล็กของคนที่คุ้นเคยรู้จักกันดีกำลังนั่งอยู่บนม้านั่ง ตัวเดียวที่ติดริมน้ำให้บรรยากาศที่แสนโรแมนติก…
ผมสีอ่อนปลิวไสวไปตามสายลมยิ่งต้องกับแสงอาทิตย์สีส้มที่กำลังลับขอบฟ้า นั้นแล้วยิ่งสะท้อนให้เรือนผมสีอ่อนเป็นประกายสีสวย จุนโฮที่นั่งอยู่บนม้านั่งกำลังเหม่อมองออกไปตามสายน้ำสีส้มเบื้องหน้า ใครจะรู้ไม่…ดวงตาเรียวเล็กคู่สวยที่ปกติมักจะสดใสอยู่เสมอในตอนนี้มันกลับ ดูหม่นหมองและแฝงเจือไปด้วยประกายความเจ็บปวดอย่างน่าใจหาย
หัวใจดวงน้อยที่เต้นอยู่ในอกข้างซ้ายเหมือนมันกำลังเต้นแผ่วลงตามเข้มนาฬิกาที่ใกล้จะหยุดเดิน…
พึ่บ
สายลมวูบพัดลงมาตามร่างสูงของอีกคนที่ทิ้งตัวลงนั่งข้างๆ เว้นระยะห่างตรงกลางเอาไว้ มีเพียงความเงียบงันและเสียงลมพัดผ่านต้นไม้ใบหญ้ารอบตัวจนเกิดเป็นเสียง ธรรมชาติที่โดยปกติแล้วมันจะฟังดูเงียบสงบและผ่อนคลาย แต่ในวันนี้…มันกลับให้ความรู้สึกเงียบนิ่งจนน่าใจหาย…
“จุนโฮ…”เสียงทุ้มนุ่มทรงเสน่ห์ที่เจ้าของชื่อมักจะชอบฟังและหลงใหลมันอยู่เสมอในเวลานี้กลับให้ความรู้สึกเจ็บปวดเหลือเกิน
“…” ใบหน้าหวานยังคงราบเรียบ ดวงตาเรียวเล็กทอดมองสายน้ำไหวตรงหน้าไม่ไหวติ่ง เรียวปากบางได้รูปเรียบสนิทไม่ขยับหรือแม้แต่จะเอื้อนเอ่ยอะไรออกมา
ชานซองมองใบหน้าด้านข้างของคนรักเงียบๆ ทุกสิ่งทุกอย่างรอบตัวดูเงียบไปหมดจนรู้สึกอึดอัด ริมฝีปากหยักขยับพูดอีกครั้งเพื่อทำลายความเงียบที่แสนจะน่ากลัวนี้ลง
“ฉัน…” ชานซองหยุดชะงักคำพูดค้างไว้แค่นั้นก่อนจะเม้มปากตัวเองแน่น สายลมเอื่อยที่พัดปะทะร่างให้ความรู้สึกเย็นยะเยือกเหมือนความรู้สึกของคน ที่นั่งอยู่ข้างๆ ในเวลานี้… จุนโฮค่อยๆ หันหน้ามามองชานซองช้าๆ ด้วยสายตาที่นิ่งสนิท…
ไม่มีแววตาวูบไหว ไม่มีประกายความรู้สึกใดๆ ไม่มีแม้แต่ความรู้สึกลึกซึ้งที่อาจซ่อนอยู่ในดวงตาเรียวคู่สวยที่เขาแสนรัก…
แสงอาทิตย์ส่องกระทบใบหน้าเนียนในทิศทางที่จุนโฮหันไปมองชานซอง ดวงตาเรียวคู่สวยสะท้อนเงาของคนตรงหน้า ชานซองจ้องลึกเข้าไปในดวงตาเรียวเล็กนั่นด้วยสายตาที่พยายามสื่อให้เห็นถึง ความเจ็บปวดที่มันกำลังบีบรัดอยู่ที่อกข้างซ้าย เพียงแค่สีหน้าเฉยชากับแววตาที่แสนนิ่งสนิทก็เปรียบเสมือนมีดเล่มเล็กที่ ค่อยๆ กรีดลึกลงไปในหัวใจที่กำลังเต้นอยู่ ริมฝีปากแดงค่อยๆ ขยับพูดเหมือนภาพสโลวโมชั่นที่ค่อยๆ ดำเนินไปอย่างช้าๆ พยายามตอกย้ำให้เขาได้รับรู้ถึงความรู้สึกทุกเรื่องราวที่กำลังจะเกิดขึ้นใน อีกไม่ช้าได้อย่างชัดเจนจนแน่ใจว่าเขาจะไม่สามารถพลาดอะไรไปได้สักเสี้ยว วินาทีเดียว
“ชานซอง”
เสียงหวานที่เอื้อนเอ่ยชื่อของเขาเป็นสิ่งที่เขาชอบและรักมันมาตลอดระยะเวลาสี่ปีที่ผ่านมา…
ไม่สิ…
วันนี้สินะ…วันครบรอบสี่ปีที่เขา…ฮวางชานซองกับอีจุนโฮคบกันมา
ทำไมเสียงหวานหูในยามนี้มันเหมือนยาพิษที่สามารถฆ่าเขาให้ตายช้าๆ ได้อย่างเลือดเย็น
“เรา…เลิกกันเถอะ”
เหมือนทุกอย่างหยุดนิ่ง ไม่มีแม้แต่เสียงสายลมเอื่อย ไม่มีแม้แต่เสียงสายน้ำ ไม่มีแม้แต่เสียงของนาฬิกา ไม่มีแม้แต่เสียงของลมหายใจ…
ทุกๆ อย่างเหมือนกำลังหยุดเดิน ในวินาทีเดียวกันนั้น ภาพแห่งความสุขก็กำลังไหลหลั่งเข้ามาในหัว…
รอยยิ้มหวานที่มักจะส่งมาให้เขาอยู่เสมอ…
ดวงตาเรียวเล็กที่หยีจนเป็นเส้นขีดเดียวทุกครั้งที่จุนโฮยิ้ม…
เสียงหวานที่เอื้อนเอ่ยคำว่ารักให้ฟังอยู่ทุกคืนวัน…
สัมผัสอุ่นของฝ่ามือเล็กที่เขาคอยกอบกุมมันเอาไว้เสมอด้วยความรัก…
อ้อมกอดอบอุ่นที่มันจะอุ่นวาบไปทั่วทั้งหัวใจเมื่อยามได้สัมผัส…
รสจูบหวานที่แสนอ่อนโยนละมุนละไม กับดวงตาเรียวเล็กที่มักจะส่องสะท้อนเงาของเขาอยู่เสมอในยามที่จ้องมอง…
ทำไมทุกอย่างเหมือนกำลังค่อยๆ เลือนหายไป…
หายไปตลอดกาล…
“…” ความเงียบเข้าเกาะกุมจิตใจ จุนโฮยังคงนิ่งมองหน้าชานซองอยู่อย่างนั้นด้วยสายนิ่งเรียบที่ไม่มีแม้แต่ ประกายวูบไหว ไม่มีความรู้สึกพิเศษที่ถ่ายทอดออกมาจากดวงตาเรียวคู่สวย ริมฝีปากบางเรียบสนิทไม่มีแม้แต่คำพูดใดๆ ที่จะเอื้อนเอ่ยออกมาอีก
ก้อนเนื้อที่อกข้างซ้ายพลันหยุดเต้น ความเจ็บปวดเริ่มเข้าเกาะกุมจิตใจ..
ความเจ็บปวดที่คนตรงหน้ามอบให้…
มันปวดร้าวไปทั่วทั้งหัวใจ…
“จุน…โฮ” ริมฝีปากหยักขยับพูดอย่างลำบาก รู้สึกถึงก้อนสะอื้นจุกอยู่บริเวณลำคอจนรู้สึกฝืดไปหมด ขอบตาร้อนผ่าวเหมือนน้ำใสๆ จะไหลรินออกมาได้ทุกเมื่อเพียงแค่กระพริบตา
เธอแปลคำว่ารักไม่ตรงกับฉัน แค่เรามองรักด้วยสายตาต่างกัน
รักคำเดียวไม่พอให้อยู่ด้วยกันจนถึงวันสุดท้าย…
“เราจบกันแค่นี้เถอะชานซอง”
เสียงหวานๆ ที่เขามักจะชอบฟังเสมอในยามนี้มันเหมือนยาพิษรสหวานที่เขาเต็มใจจะดื่มเข้า ไปจนหมดถึงแม้จะรู้ว่ามันมีพิษร้ายแรงจนสามารถคร่าชีวิตเขาได้ก็ตาม เขาไม่สามารถหยุด…ไม่สามารถวางมันลงจนกว่าจะดื่มมันหมดได้ ไม่มีประกายความเจ็บปวดแฝงอยู่ในน้ำเสียงนั้นเลยสักนิด ไม่มีแววตาขมขื่นสะท้อนออกมาให้เห็น มีเพียงความนิ่งในดวงตาคู่สวย น้ำเสียงหวานที่ราบเรียบแต่ถ้อยคำที่ออกมามันเหมือนลิ่มมีดที่ค่อยๆ แทงทะลุลงตรงกลางใจ
“ท…ทำไม…ทำไมล่ะจุนโฮ” ฝ่ามืออุ่นยกขึ้นแนบลงบนแก้มใสของคนตรงหน้า ดวงตาคมที่รื้อไปด้วยหยาดน้ำตาจ้องลึกเข้าไปในดวงตาเรียวคู่สวย พยายามค้นหาความรู้สึกบางอย่างที่มันอาจซ่อนอยู่ในแววตาราบเรียบที่เหมือน ไม่รู้สึกอะไร ฝ่ามือเล็กของคนตรงหน้ายกขึ้นทาบทับลงบนหลังมืออุ่นแผ่วเบา ความอบอุ่นแผ่ซ่านไปทั่วหลังมือของชานซอง ความรู้สึกเจ็บปวดแล่นปลาบเข้ามาในอกเหมือนกำลังตอกย้ำในสิ่งที่เขากำลังจะ เสียมันไป
“เรากำลังถึงจุดที่อิ่มตัวแล้วนะชานซอง…” ริมฝีปากเรียวคลี่ยิ้มบางมองคนตรงหน้าด้วยรอยยิ้มหยีที่ชานซองรักมันนักหนา หยดน้ำตาเม็ดเล็กไหลรินออกจากดวงตาคมที่ร้อนผ่าว
ทำไมรอยยิ้มของจุนโฮตอนนี้มันกำลังฆ่าเขาให้ตายนะ ทำไมมันช่างเจ็บปวดเหลือเกิน…
“ฉ…ฉันขอโทษจุนโฮ…ฉันขอโทษที่ละเลยนายไปบ้างในบ้างครั้ง…แต่…แต่ฉันยัง รักนายเสมอนะจุนโฮ” เสียงทุ้มเอ่ยสั่นเครือ ดวงตาคมพร่าเลื่อนไปด้วยม่านน้ำตา ใบหวานของคนตรงหน้ากำลังถูกบังไปด้วยหยาดน้ำใสๆ
“นายไม่ผิดหรอกชานซอง…”
ก็คงไม่มีใครผิดหรือถูก สิ่งที่ล่วงเลยก็เปลี่ยนไม่ได้ ได้แค่นึกถึง ได้แค่เสียดาย…
สัมผัสอุ่นๆ จากมือเรียวเล็กของคนตรงหน้าค่อยๆ เกลี่ยเอาหยดน้ำตาออกจากใบหน้าคมแผ่วเบาอย่างอ่อนโยน แต่ยิ่งปาดมันออกไป ดวงตาคมคู่สวยก็กลับยิ่งปล่อยหยาดน้ำตาลงมาไม่ขาด คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันพยามกลั้นเสียงสะอื้นที่มันอาจจะดังออกมาจนน่าสมเพช
“นายไม่รักฉันแล้วหรอจุนโฮ”
ไร้เสียงตอบรับของคนตรงหน้า เหมือนเวลาเดินมาจนถึงวินาทีสุดท้าย…ทุกอย่างหมดลงตามแสงสว่างที่กำลังกลืน หายไปกลับรัตติกาล จุนโฮคลี่ยิ้มบางส่งมาให้เขาอีกครั้งเป็นครั้งสุดท้ายก่อนฝ่ามือเล็กที่ แสนอบอุ่นจะจับมือหนาออกจากใบหน้าของตน ดวงตาเรียวเล็กยังคงทอดมองเขาด้วยแววตาที่นิ่งเรียบ
ไม่เย็นชา…
แต่มันกลับนิ่ง…นิ่งเหมือนคนไม่รู้จักกัน…
“ฉันต้องไปแล้ว”
“ดูแลตัวเองดีๆ ด้วยนะชานซอง”
มือเรียวเล็กวางมือหนาลงบนพื้นโลหะเย็นๆ ของม้านั่ง ก่อนที่ร่างบางจะลุกขึ้นยืนหันหลังกลับเดินออกไปช้าๆ ไม่แม้แต่จะหันกลับมามอง…
ชานซองเอนหลังพิงพนักเก้าอี้ยอมปล่อยให้น้ำใสๆ ไหลออกมาจากดวงตาของตัวเอง คิดซะว่ามันอาจสามารถชะล้างเอาความเจ็บปวดที่เข้าเกาะกินหัวใจเขาอยู่ ออก…แต่มันกลับยิ่งเจ็บลึกเข้าไปอีก…
เจ็บ…เจ็บจนแทบขาดใจ
ความรักแรกรักก็สวยงามดั่งเพลงรักที่ซึ้งในนิยาม
เวลาที่หมุนที่ผ่านไปทั้งเธอกับฉัน คิดคนละอย่าง ไม่เหมือนเดิม…
ผิดที่เขาเอง…ผิดที่เขาปล่อยให้วันเวลามันผ่านไปโดยไม่สนใจคนข้างกาย
ไม่สนใจความรักที่คอยมอบให้เขาอยู่ตลอดเสมอ
ไม่สนใจความรู้สึกของคนรักในยามที่มันกำลังเปราะบางพร้อมจะแตกร้าวได้ทุกเมื่อ
ผิดที่เขาละเลย…ละเลยความรู้สึกของใครอีกคนที่เขาเฝ้าพร่ำบอกรักอยู่เสมอ…
ผิดที่เขา…
ทำไมคำว่ารักของเราถึงต่างกัน ทำไมเธอและฉันไปกันไม่ได้
ฉันรู้เพียงแค่เธอคือโลกของฉัน ขาดเธอเหมือนขาดใจ แต่ไม่รู้ใจคนอย่างเธอ…
เหมือนนาฬิกาที่หยุดเดิน เหมือนทุกอย่างหยุดอยู่กับที่ เหมือนเวลาแห่งความสุขมันกำลังเลือนหาย…
สิ่งที่มีค่าที่สุด…เราจะรู้ก็ต่อเมื่อเสียมันไป…
อย่างไม่มีวันหวนกลับ…
คงเป็นเพราะฉันฝันถึงเธอเมื่อคืน พอตื่นมาก็ยังนั่งนึกถึงเธอ เธอที่เคยรัก เธอที่จากไป…
มันทำให้ฉันยิ้ม ยิ้มทั้งน้ำตา นึกถึงสัญญาที่ทำไม่ได้ จะอยู่ด้วยกัน จนวันสุดท้าย…
The End ..
________________________________________
วันช็อตสั้นๆ ตามอารมณ์ฝนตกกับเพลงซึ้งๆ
เป็นฟิคเรื่องแรกที่เอยแต่งแล้วมันออกมาเศร้า TT
เพลงกินใจมาก เนื้อเพลงชั่งบาดลึกลงกลางใจ
ทำไมคำว่ารักของเราถึงต่างกัน…?
อารมณ์เหงาๆ เศร้าๆลอยมาเลยค่ะ
งือออ เเบบนี้ก็เศร้าไป